เที่ยวซัปโปโรสถานที่แนะนำ
ซัปโปโร
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด โดยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ อาหารรสเลิศ และศิลปะ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั้งในและต่างประเทศแวะเวียนกันมาเยือนเป็นประจำทุกปี
แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวซัปโปโร
แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของซัปโปโรส่วนใหญ่จะกระจุกรวมกันอยู่
แถวสถานีซัปโปโร เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งก็ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโรเล็กน้อยเช่นเดียวกัน เมื่อเอ่ยถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงเป็นพิเศษทุกปีเลยก็ต้องยกให้สวนสาธารณะที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันกว้างใหญ่และศิลปะ เฉพาะของซัปโปโรเลยค่ะ Moerenuma Park (สวนโมเอเรนุมะ) ที่ได้รับการออกแบบโดยคุณอิซามุ โนกุจิ แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาเยือนกันมากมายด้วยความงดงามภายในสวน
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวแถวสถานีซัปโปโร(หมายเลข 1~6) และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเล็กน้อย(หมายเลข 7~10) กันค่ะ ^^
ข้อควรระวังเรื่องสภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นตั้งไป อากาศจะเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาก ส่วนตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงเดือนมีนาคม อุณหภูมิต่ำสุดจะหนาวเย็นถึงขีดสุดถึงขนาดติดลบกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่วางแผนไปเที่ยวซัปโปโรในฤดูหนาวจึงขอแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าอุ่นๆไปด้วยจะดีที่สุด
ข้อมูลการเดินทางภายในซัปโปโร
เนื่องจากภายในเมืองซัปโปโรมีระบบขนส่งสาธารณะมากมายทั้งรถไฟใต้ดิน รถบัส และรถราง เราจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ รางรถไฟภายในเมืองยังเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมอีกด้วย ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะเดินเที่ยวเองก็เข้าใจง่ายอย่างแน่นอน
1.Former Hokkaido Government Office (ที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด)
Former Hokkaido Government Office (ที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด)เป็นสถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีซัปโปโรซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของซัปโปโรเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากถ่ายรูปที่ระลึกก็ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่เลยค่ะ
ในเดือนพฤษภาคมจะเป็นต้นซากุระแบบย้อยและทิวลิป ส่วนในเดือนมิถุนายนจะเป็นฮานาโชบุ และในเดือนกรกฎาคมจะเป็นดอกบัวสายและฮามานาสึ เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะกลายเป็นฤดูกาลที่ย้อมไปด้วยสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วย
2.Nijo market (ตลาดนิโจ)
Nijo market (ตลาดนิโจ) เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบอาหารรสเลิศมากมายในฮอกไกโด
ตลาดนิโจตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย สำหรับใครที่อยากหาซื้อปู กุ้ง และฮอยโฮตาเตะสดใหม่หรืออยากลิ้มลองรสชาติของฮอกไกโดที่ร้านอาหารสุดเอกลักษณ์หรืออยากพูดคุยภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นโดยตรงก็บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ เนื่องจากภายในตลาดก็มีบางร้านที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ด้วย ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็สบ๊ายยย…
แต่หลังเวลา 8 โมงเป็นตั้งไปจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย จึงขอแนะนำให้รีบตื่นเช้ามาจะดีที่สุด
3.Sapporo Beer Museum (พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร)
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำสำหรับคอเบียร์เลยค่ะ
“พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร” อยู่ในระหว่างการจัดทัวร์นำเที่ยวที่สามารถเพลิดเพลินได้แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้ภาษาญี่ปุ่น ถ้าเกิดเข้าร่วมพรีเมียมทัวร์ราคา 500 เยน เราจะได้ลิ้มลองเบียร์ที่ผลิตขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อ 130 ปีที่แล้วด้วยนะจ๊ะ…
การได้ลิ้มลองเบียร์สดใหม่คู่กับชีส, มันฝรั่ง, ปู และ “เนื้อเจงกิสข่าน” (เนื้อแกะย่าง) เมนูขึ้นชื่อของฮอกไกโดเป็นอะไรที่ฟินสุดยอด!
4.Mount Moiwa Ropeway (กระเช้าภูเขาโมอิวะ)
“ภูเขาโมอิวะ” เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของกระรอกญี่ปุ่น และสุนัขจิ้งจอกญี่ปุ่น มากมาย สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับทัศนียภาพยามค่ำคืนท่ามกลางบรรยากาศอันแสนเงียบสงบเฉพาะของฮอกไกโดก็ขอแนะนำให้นั่งMount Moiwa Ropeway (กระเช้าภูเขาโมอิวะ)ขึ้นไปบนยอดเขาเลยค่ะ
ทัศนียภาพยามค่ำคืนของเมืองซัปโปโรนี้ได้รับเลือกให้เป็นอันดับ 2 ของ 3 วิวกลางคืนของญี่ปุ่นประจำปี 2015 เลยทีเดียว (อันดับที่ 1 คือ “นางาซากิ” ส่วนอันดับที่ 3 คือ “โกเบ”) โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่คู่รักด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก
5.Hokkaido University (มหาวิทยาลัยฮอกไกโด)
Hokkaido University (มหาวิทยาลัยฮอกไกโด)
ตั้งอยู่ติดกับสถานีซัปโปโร
ภายในมหาวิทยาลัยเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สถานที่สามารถเข้าชมได้ฟรี โดยเราสามารถเยี่ยมชมฟอสซิลที่ขุดพบในฮอกไกโดและโมเดลจำลองสำหรับการวิจัยได้ที่นี่เลย นอกจากนี้ เรายังจะได้ชมสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าอย่างสถาปัตยกรรมสมัยที่เป็น Sapporo Agricultural College ก่อนที่จะมาเป็นมหาวิทยาลัยฮอกไกโดด้วยนะเออ…
โรงอาหารภายในมหาวิทยาลัยเปิดทำการตั้งแต่ 8 โมงเช้าเป็นต้นไป เซ็ตอาหารเช้าสามารถซื้อได้ในราคาถูกเพียง 200 เยนเท่านั้น สำหรับใครที่อยากลิ้มลองอาหารเช้าของคนญี่ปุ่นทั่วไปก็บอกเลยว่าห้ามพลาด!
6.เพลิดเพลินกับงานเทศกาลหิมะซัปโปโร! Odori Park (สวนโอโดริ) และ Sapporo TV Tower (ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์)
Odori Park (สวนโอโดริ)
เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่เลียบถนนสายหลักใจกลางซัปโปโร โดยทอดยาวจากเหนือจรดใต้ ที่นี่มีอาณาบริเวณกว้างขวางมากซึ่งตรงมุมหนึ่งมี Sapporo TV Tower (ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์) ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่
ตรงฐานของทีวีทาวเวอร์เป็นสถานที่จัดงานอีเว้นท์ต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลหิมะซัปโปโรในฤดูหนาวและเบียร์การ์เด้นในฤดูร้อน สำหรับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับงานเทศกาลหิมะซัปโปโรสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์หลักของงานเทศกาลหิมะซัปโปโร
นอกจากหมู่มวลดอกไม้ตามฤดูกาลแล้ว เรายังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมปฎิมากรรมและน้ำพุได้ด้วย จึงบอกเลยว่าเที่ยวทั้งวันก็ไม่มีเบื่อ
จากบนทีวีทาวเวอร์ เราสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาลได้ เช่น ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและงานเทศกาลหิมะในฤดูหนาว เป็นต้น เราสามารถชมถนนสายหลักที่ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตาและภูเขามากมายภายในเมืองซัปโปโรได้จากบนทีวีทาวเวอร์ในวันที่อากาศแจ่มใส บอกเลยว่าเป็นความงดงามที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้จริงๆค่ะ >
7.Shiroi Koibito Park (โรงงานช็อกโกแลตชิโร่ยโคอิบิโตะ)
“ชิโร่ยโคอิบิโตะ” คือ ขนมแซนวิชคุกกี้ 2 แผ่นสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตตรงกลาง ด้วยรสชาติหวานมันของเนยเน้นๆและความอร่อยของไวท์ช็อกโกแลต ทำให้มันกลายเป็นขนมขึ้นชื่อประจำเกาะฮอกไกโดไปโดยปริยาย
Shiroi Koibito Park (โรงงานช็อกโกแลตชิโร่ยโคอิบิโตะ)แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีซัปโปโรประมาณนั่งรถไฟหรือรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเป็นโรงงานผลิตชิโร่ยโคอิบิโตะ ที่นี่เต็มไปด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ทัวร์เยี่ยมชมโรงงาน เป็นต้น
บอกเลยว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาของฝากชั้นนำแม้ในวันฝนตกเลยค่ะ
ที่นี่ไม่ได้มีเพียงกิจกรรมเยี่ยมชมโรงงานและทำขนมให้เพลิดเพลินกันอย่างเดียวเท่านั้น แต่บริเวณโดยรอบโอบล้อมไปด้วย พื้นที่สุดน่ารักชวนฝัน อีกด้วย บอกเลยว่าเพื่อนๆจะได้สัมผัสความรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งนิทานเลยทีเดียว
8.Moerenuma Park (สวนโมเอเรนุมะ) ที่ออกแบบโดยอิซามุ โนกุจิ
Moerenuma Park (สวนโมเอเรนุมะ) เป็นสวนที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและธรรมชาติที่ได้รับการออกแบบโดยปฏิมากร “คุณอิซามุ โนกุจิ”
เราสามารถนั่งรถไฟและรถบัสมาจากเมืองซัปโปโรได้โดยใช้เวลาถึง 40 นาทีก็จริง แต่ด้วยความงดงามและความรู้สึกราวกับว่าได้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งศิลปะ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมไปโดยปริยาย
วิวแบบ 360 องศาที่สามารถชมได้จากบนเนินนับเป็นทัศนียภาพอันงดงามที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหนในโลกจริงๆค่ะ เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายทั้งเล่นน้ำที่ชายทะเลเทียมในฤดูร้อน เล่นหิมะในฤดูหนาว และเครื่องเล่นอีกเพียบ! จึงนับเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพาเด็กๆมาเที่ยวโดยเฉพาะ
เนื่องจากภายในสวนมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก จึงขอแนะนำให้ขี่จักรยานเช่าตระเวนเที่ยวจะดีที่สุด
9.Sapporo Art Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะซัปโปโร)
สำหรับใครที่อยากเดินทางออกมาจากตัวเมืองซัปโปโรเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติในซัปโปโรก็ขอแนะนำให้แวะมาเที่ยว
Sapporo Art Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะซัปโปโร) เลยค่ะ โดยสามารถนั่งรถไฟมาจากซัปโปโรได้โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีและนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 15 นาที
ผลงานศิลปะร่วมสมัยอันทรงเสน่ห์มีถึง 74 ชิ้นด้วยกัน บอกเลยว่าประสบการณ์การหลุดเข้าไปในโลกแห่งธรรมชาติและพื้นที่ที่แตกต่างออกไปจากปกติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากที่ไหนในโลกเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยากถ่ายรูปสิ่งที่น่าสนใจก็บอกเลยว่าห้ามพลาด!
10.Takino Suzuran Hillside National Government Park (อุทยานแห่งชาติทาคิโนะสุสุรันฮิลไซด์)
เราสามารถเดินทางมาจากสถานีซัปโปโรได้โดยการนั่งรถไฟใต้ดิน 30 นาทีและนั่งรถบัสต่ออีก 30 นาทีรวมกว่า 1 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนานก็จริง แต่Takino Suzuran Hillside National Government Park (อุทยานแห่งชาติทาคิโนะสุสุรันฮิลไซด์)แห่งนี้ก็เป็นอะไรที่ไม่แนะนำไม่ได้จริงๆค่ะ
ที่นี่เต็มไปด้วยด่านปีนป่ายมากมายที่เล่นทั้งวันก็ไม่หมด จึงบอกเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ที่พาเด็กๆมาด้วยห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
เนื่องจากที่นี่ได้รับการดูแลโดยรัฐบาลด้วย จึงมีเทคโนโลยีในการทำสวนขั้นสูง ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทุกฤดูกาล
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆเพลิดเพลินกับเมืองซัปโปโรที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งธรรมชาติ อาหารการกิน และศิลปะแห่งนี้กันนะคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก JapangPhotoLibrary, booking.com
ความเห็นล่าสุด